หน้าเว็บ

วันอาทิตย์, เมษายน 07, 2556

เคล็ดลับผิวสวย ด้วย "โคลนพอกผิว"

วันนี้เรามีเคล็ดลับผิวสวยด้วยโคลนพอกผิวมาฝากค่ะ คุณผู้หญิงท่านไหนที่ยังไม่เคยลอง โคลนพอกผิว น่าจะลองกันดูนะค่ะ

โคลนที่นำมาทำโคลนพอกผิวมีหลายชนิดซึ่งแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติต่างกันไป เช่น colloidal kaolin (โคลนดินขาวจากจีน) ผสมในเครื่องสำอางพอกหน้า ช่วยดูดความมันและสิ่งสกปรกได้ดี Activated Charcoal (ถ่านชาร์โคล) ช่วยดูดซับสารพิษฝุ่นละออง และสิ่งตกค้างอยู่ในรูขุมขน Bentonite (จากเถ้าภูเขาไฟในสหรัฐอเมริกา) ผสมในผลิตภัณฑ์ลอกหน้าและยารักษาโรคผิวหนัง เช่น Eczema เป็นต้น

โคลนอาจแบ่งเป็น 2 ลักษณะ แบบแรก แบ่งตามแหล่งที่มาของโคลน คือ

1.โคลนภูเขาไฟและน้ำพุร้อน ได้แก่ โคลนเถ้าภูเขาไฟในสหรัฐอเมริกา โคลนโป่งเดือดแม่สะงา จังหวัดแม่ฮ่องสอน

2.โคลนแม่น้ำและทะเลสาบและโคลนทะเล ได้แก่ โคลนทะเลเดดซี ทั้งนี้โคลนแต่ละแหล่งที่มาจะมีส่วนผสมแร่ธาตุ วิตามิน แตกต่างกันไปด้วย โคลนภูเขาไฟและน้ำพุร้อนมีธาตุกำมะถันและโพแทสเซียมสูงส่วนโคลนแม่น้ำและทะเลสาบจะมีวิตามินและสารพฤกษเคมีมากต่างจากโคลนทะเลที่มีเกลือเป็นส่วนผสมสำคัญ

โคลนอีกประเภทแบ่งตามคุณสมบัติเมื่อใช้งาน คือ โคลนร้อนและโคลนเย็นโดยโคลนทั้งสองประเภทมีคุณสมบัติช่วยทำความสะอาดผิวและบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น


เคล็ดลับผิวสวย กลไกสองต่อ
โคลนพอกผิวช่วยให้ผิวสวยได้ด้วย 2 กลไกสำคัญ กลไกแรกเป็นคุณสมบัติทางกายภาพของเนื้อโคลนที่มีประโยชน์ในการชำระล้างผิว หลักการทำงานง่ายๆ เพียงทาโคลนบนผิวแล้วทิ้งให้แห้ง โคลนพอกหน้าประกอบด้วยอนุภาคของแข็งเมื่อน้ำที่ผสมอยู่ระเหยออกไปโคลนจะหดตัวและดึงผิวให้ตึงพร้อมดูดซับความมันสิวเสี้ยนและสิ่งสกปรกออกจากผิวด้วย เมื่อผ่านกลไกการทำความสะอาดผิวแล้วสารบำรุงผิวที่มีอยู่ในโคลนก็จะช่วยบำรุงและรักษาผิว (ดูตารางคุณสมบัติของโคลนที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้ในเล่ม)

แม้โคลนจะมีคุณสมบัติเด่นในการทำความสะอาดและเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวแต่ควรเลือกใช้โคลนที่สะอาดและผ่านการฆ่าเชื้อแล้วเท่านั้น การพอกโคลนเหมาะกับทุกสภาพผิวแต่ไม่ควรทำเมื่อมีบาดแผลส่วนคนที่มีผิวแห้งควรทำเพียงสัปดาห์ละครั้งเพื่อไม่ให้ผิวสูญเสียความชุ่ม ชื้นมากเกินไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น