หน้าเว็บ

วันอังคาร, เมษายน 23, 2556

7 พฤติกรรมเสี่ยง "น้ำหนักเพิ่ม"


พฤติกรรมเสี่ยง "น้ำหนักเพิ่ม"



1. ดื่มกาแฟ

คุณเป็นคนหนึ่งหรือเปล่าที่ทุกๆ เช้า ต้องสั่งกาแฟจากร้านกาแฟระหว่างเดินทางมาทำงานมาดื่ม แถมกาแฟนั้นยังตกแต่งด้วยวิปครีมที่ดูอลังการน่าดื่มสุดๆ แต่วิปครีมนั่นแหละคือแคลอรีที่คุณจะได้รับมากเกินขนาด ทำให้กาแฟหนึ่งแก้วของคุณทุกเช้ามีปริมาณแคลอรีมากถึง 370 แคลอรีเข้าไปแล้ว แถมยังมีไขมันจากนมอีกด้วย เพราะฉะนั้นแล้ว หากไม่ปรารถนาแคลอรีจากกาแฟแก้วสวย เลือกทานกาแฟแบบธรรมดาที่ไม่เติมครีม หรือน้ำตาลลงไปดีกว่า เพราะครีม 1 ช้อนโต๊ะ ให้พลังงานถึง 24 แคลอรี และไขมันอีก 3 กรัม ส่วนน้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ ก็ให้พลังงานถึง 16 แคลอรี แต่ถ้าคุณเลือกทานกาแฟธรรมดาๆ แทน ภายใน 1 ปี จะลดพลังงานส่วนเกินลงได้ถึง 17,160 แคลอรี ซึ่งเท่ากับลดน้ำหนักได้ถึง 5 ปอนด์เลยนะนั่น

2. เดินไปหม่ำไป หรือ หม่ำขณะขับรถ

บางทีเพราะความรีบเร่งก็ทำให้หลายคนมีพฤติกรรมเดินไปด้วยกินไปด้วย เพื่อประหยัดเวลา แต่การกินระหว่างทางนี่แหละทำให้คุณกินเร็วเกินไป และนานๆ เข้าคุณก็จะติดนิสัยกินเร็วไปโดยปริยาย ทั้งๆ ที่ อาหารมื้อหนึ่งเราควรใช้เวลาทานอย่างน้อย 20 นาที ทางแก้ก็คือ นั่งลงค่อยๆ ทานจะดีกว่า (ไม่รวมการรับประทานอาหารขณะขับรถนะ เพราะนั่นก็ให้ผลลัพธ์ไม่ต่างจากการเดินไปกินไปอยู่ดี)เพราะหากคุณรีบเคี้ยวรีบกินมากเกินไป เมื่อถึงอาหารคำสุดท้าย คุณจะไม่รู้สึกอิ่มเลย และอยากหาอะไรใส่ปากอีก แล้วทีนี้คุณก็จะเผลอทานอาหารมากเกินไปนั่นเอง แต่ถ้าคุณใจจดใจจ่อกับการรับประทานอาหารตรงหน้าแบบค่อยเป็นค่อยไป คุณจะรู้ว่าทานอะไรไปบ้าง แล้วก็จะรู้สึกอิ่มได้โดยไม่ทานอาหารมากเกินไป 

3. สวาปามอย่างลืมตัวในช่วงสุดสัปดาห์

ความพยายามไดเอทที่ทำมาตลอดวันจันทร์-ศุกร์ อาจพังครืน หากวันหยุดสุดสัปดาห์คุณเผลอไปปาร์ตี้จนลืมตัว แถมคนส่วนใหญ่ยังมีพฤติกรรมเช่นนี้ด้วย โดยนักวิจัยเปิดเผยว่า คนมักจะไม่ค่อยคำนึงถึงปริมาณอาหารการกินในช่วงวันหยุด โดยเฉพาะวันเสาร์ ทำให้คนเรามีแนวโน้มที่จะบริโภคไขมันเข้าไปมากกว่าวันปกติและทำให้แคลอรีพุ่งปรี๊ด เพื่อไม่ให้วันเสาร์และวันอาทิตย์กลายเป็นวันน้ำหนักพุ่ง ขอให้คุณใส่ใจกับปริมาณอาหารที่ทานเข้าไปด้วย รวมทั้งชั่งน้ำหนักตัวเองทุกวัน และระมัดระวังเรื่องการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งจะให้แคลอรีกับคุณได้เหมือนกัน

4. ขนาดของจานก็สำคัญ

สังเกตไหมว่าสมัยนี้ร้านอาหารมักจะจัดจานขนาดใหญ่ให้ลูกค้า กับข้อเสนอเพิ่มไซส์บิ๊กได้ในราคาที่เพิ่มขึ้นมาอีกนิดหน่อย ซึ่งก็ทำให้คุณอยากจะเลือกทานขนาดจานไซส์บิ๊กนั่นแหละ เพื่อความคุ้ม จนลืมตัวไปว่า ยิ่งทานมาก น้ำหนักก็ยิ่งมากนะจ๊ะ เพื่อไม่ให้น้ำหนักขึ้นไปมากกว่านี้ เลือกทานอาหารในจานเล็กๆ จะดีกว่า เพราะจะทำให้เรารู้จักควบคุมพฤติกรรมการทานอาหารของตัวเอง รวมทั้งเวลาไปสั่งอาหารก็อย่าเผลอไผลไปเลือกไซส์บิ๊กล่ะ แม้ราคาจะคุ้มกว่า แต่ก็แลกกับน้ำหนักที่พุ่งขึ้นแบบไม่คุ้มเลยนะ

5. ไดเอทแบบฉับพลัน

การตั้งหน้าตั้งตาไดเอทแบบอดอาหารฉับพลัน อาจทำให้เกิดปฏิกิริยา "โยโย่" ตามมาได้ เพราะเมื่อคุณลดปริมาณอาหารอย่างกะทันหัน จะทำให้ระบบเผาผลาญอาหารในร่างกายทำงานช้าลง เนื่องจากร่างกายมีสัญชาตญาณการเอาตัวรอด จึงพยายามสำรองพลังงานไว้ในร่างกายให้มากที่สุด นั่นจึงเป็นสาเหตุว่า ทำไมคนที่อดอาหารอย่างฉับพลันมักจะอยากทานขนมหวาน จำพวกช็อกโกแลต ซึ่งเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง และในที่สุดแล้ว คุณก็อาจอดใจไม่ไหวรับประทานเข้าไปทีนี้น้ำหนักที่ลดลงไปก็จะกลับมาพุ่งพรวดอีกแน่นอน ดังนั้นแล้ว หากปรารถนาจะลดน้ำหนักจริงๆ ก็ไม่ควรถึงกับอด แค่ลดปริมาณลดนิดหน่อยอย่างค่อยเป็นค่อยไปจะดีกว่า

6. พลาดอาหารมื้อสำคัญ

เคยได้ยินแต่ยิ่งกินยิ่งอ้วน แต่นี่ยิ่งไม่กินก็ยิ่งอ้วนได้นะ เพราะการไม่รับประทานอาหารมื้อใดมื้อหนึ่งอาจส่งผลลบต่อระบบเมตาบอลิซึ่มของคุณ ทำให้มันเผาผลาญได้ช้าลง เพราะเห็นว่าไม่มีอาหารเข้าสู่ระบบแล้วไง วิธีแก้ก็ง่าย ๆ แค่ทานอาหารให้ครบทุกมื้อ เช้า กลางวัน เย็น อย่าอดมื้อใดมื้อหนึ่งเด็ดขาด เพื่อรักษาระบบเผาผลาญพลังงานให้มีประสิทธิภาพ

7. เบื่อการออกกำลังกาย

ใครๆ ก็รู้ว่าการออกกำลังกายมีประโยชน์ต่อสุขภาพแค่ไหน รวมทั้งช่วยเรื่องลดน้ำหนักด้วย แต่คนก็ไม่ค่อยทำกัน บางทีออกกำลังกายได้สามวันก็เบื่อซะแล้ว งานนี้ เทรนเนอร์จากฮอลลีวู้ดจึงแนะนำว่า ใครที่เบื่อการออกกำลังกายให้วางแผนซะใหม่ เลือกออกกำลังกายในแบบต่าง ๆ กันในแต่ละวัน หรือแต่ละวันให้เลือกว่าจะออกกำลังเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่งเป็นพิเศษก็ได้ เพื่อจะได้ไม่เบื่อ และยังทำให้ร่างกายแข็งแรงทุกส่วนด้วยล่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น